บรัสเซลล์ ประเทศเบลเยียม
- QIAGEN กำลังเร่งกำลังการผลิตเพื่อให้จัดส่งชุดตรวจไปยังห้องปฏิบัติการและโรงพยาบาลทั่วโลกได้ผ่านทางเครือข่ายโลจิสติกส์อัจฉริยะทั่วโลกของ UPS
- UPS ให้ความช่วยเหลือแก่ QIAGEN ในการจัดส่งผลิตภัณฑ์ไปยังทั่วโลก รวมถึงโซลูชั่นการทดสอบกลุ่มอาการแรก ซึ่งอาจช่วยแยกเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ออกจากโรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจที่มีอาการรุนแรงอื่นๆ 20 โรคได้ในเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
UPS (NYSE:UPS) ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับสากล ได้ประกาศในวันนี้ว่าบริษัทกำลังร่วมมือกับ QIAGEN ผู้ให้บริการด้านการตรวจวินิจฉัยโมเลกุลและเทคโนโลยีการเตรียมตัวอย่างชั้นนำระดับโลก ในการจัดส่งชุดแยกกรดนิวคลีอิกที่จำเป็นสำหรับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 รวมถึงกล่องตรวจ QIAstat-Dx เพื่อหาเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ QIAstat-Dx ไปยังจุดหมายปลายทางทั่วโลก ด้วยการที่รัฐบาลและหน่วยงานสาธารณะได้กำหนดให้ UPS อยู่ในฐานะผู้ให้บริการที่จำเป็น บริษัทจึงกำลังผสมรวมความยืดหยุ่นของเครือข่ายทั่วโลกของบริษัท เข้ากับกำลังการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นของ QIAGEN ในการผลิตชุดตรวจโควิด-19 ที่ศูนย์ปฏิบัติการของพวกเขาในเมืองฮิลเดน ประเทศเยอรมนี เพื่อช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์บรรเทาการแพร่ระบาดของโรค
"ลูกค้าและรัฐบาลทั่วโลกต้องพึ่งพาความน่าเชื่อถือของเครือข่ายโลจิสติกส์อัจฉริยะทั่วโลกของ UPS เพื่อช่วยต่อสู่กับการระบาดใหญ่ครั้งนี้" คำกล่าวของ Lou Rivieccio ประธานของ UPS Europe "ความต่อเนื่องของธุรกิจไม่เคยเป็นเรื่องสำคัญมากเท่าที่มาก่อนสำหรับลูกค้าของเรา และนี่คือมันคือสิ่งที่เราต้องดำเนินการให้ได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการจัดส่งหรือการจัดเก็บยา ชุดตรวจ หรือเครื่องมือเครื่องใช้ทางการแพทย์ และเมื่อต้องรับรองให้แน่ใจว่าชุดตรวจที่มีปริมาณมากผลิตสูงขึ้นจะส่งถึงจุดหมายปลายทางที่สำคัญทั่วโลก เช่น โรงพยาบาลและห้องปฏิบัติการ ทีมงานของเราก็จะพร้อมช่วยเหลือลูกค้าเพื่อก้าวข้ามความซับซ้อนและมุ่งเน้นไปที่การต่อสู้กับโรคระบาดใหญ่ครั้งนี้ ความคล่องตัว ความยืดหยุ่น และการตอบสนองที่รวดเร็วในห่วงโซ่อุปทาน จะช่วยในการต่อสู้กับโรคระบาดครั้งนี้ เมื่อการระบาดแพร่กระจายจากเอเชียสู่ยุโรปและอเมริกาเหนือ"
ในยุโรป UPS เพิ่งลงทุน 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐไปกับเครือข่ายและบริการของบริษัท การลงทุนครั้งนี้ช่วยให้บริษัทได้นำแผนรับสถานการณ์ฉุกเฉินแบบไดนามิกมาใช้ ซึ่งจะสามารถปรับให้เข้ากับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้ แม้ว่าพรมแดนจะถูกปิดอยู่ในช่วงระยะนี้ แต่ UPS ก็ยังคงทำหน้าที่ดูแลความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ด้วยศูนย์กลางการขนส่งทางอากาศในภูมิภาคยุโรปที่ท่าอากาศยานโคโลญบ็อน บริษัทสามารถรับรองได้ถึงการขนส่งสินค้าจำเป็นได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิผลสำหรับในยุโรปและการขนส่งไปยังจุดหมายปลายทางทั่วโลก
"เราต้องเพิ่มและจะพยายามเพิ่มกำลังการผลิตน้ำยาและชุดตรวจโควิด-19 เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องผลิตภัณฑ์ของเราที่พุ่งขึ้นสูงอย่างมากทั่วโลกในปัจจุบัน ห่วงโซ่อุปทานของเรามีความสำคัญอย่างยิ่งในช่วงเวลานี้ ทั้งต่อศูนย์ผลิตของเราและต่อลูกค้าของเรา" Barthold Piening รองประธานอาวุโส หัวหน้าฝ่ายการปฏิบัติการทั่วโลกของ QIAGEN กล่าว "แค่เพียงทีมงานของเราที่ QIAGEN เริ่มต้นทำงานทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้มั่นใจถึงการผลิต เราก็รู้ว่าสามารถพึ่งพา UPS ในฐานะพันธมิตรด้านโลจิสติกส์ของเรา ว่าจะสามารถจัดส่งชุดอุปกรณ์และส่วนประกอบต่างๆ เหล่านี้ไปยังปลายทางที่มีความจำเป็นมากที่สุดได้ตรงเวลาและอยู่ในสภาพที่เหมาะสม เรามีความมุ่งมั่นปรารถนาเดียวกันกับ UPS นั่นคือการใช้เครือข่ายสากลที่มีความยืดหยุ่นของบริษัทเพื่อทำให้โซลูชั่นของเราถึงมือผู้ใช้ได้อย่างแพร่หลายมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้"
ความพยายามเหล่านี้ในการสนับสนุนความจำเป็นในระดับสากลของ QIAGEN ต่อการตอบสนองต่อความท้าทายทั่วโลก ซึ่งมาพร้อมกับการจัดการห่วงโซ่อุปทานที่มีความละเอียดอ่อน จะสอดคล้องกับการสนับสนุนของ UPS เพื่อให้รัฐบาลและลูกค้าจากธุรกิจภาคเอกชนสามารถร่วมมือกันเพื่อควบคุมโรคระบาดจากเชื้อไวรัสโคโรนา UPS คือส่วนสำคัญของระบบเศรษฐกิจโลก โดยมีอัตราการขนส่งสินค้าที่เป็น GDP ทั่วโลกอยู่สามเปอร์เซ็นต์ในแต่ละวัน และพนักงานของบริษัทก็ภาคภูมิใจในบทบาทสำคัญของบริษัทที่มีต่อลูกค้า ชุมชน และระบบเศรษฐกิจในประเทศที่บริษัทดำเนินกิจการ บริษัทกำลังสนับสนุนหน่วยงานสาธารณสุขทั่วโลกในการจัดส่งอุปกรณ์การดูแลสุขภาพที่จำเป็น รวมถึงการขนส่งเครื่องช่วยหายใจไปให้บริการสุขภาพแห่งชาติของสหราชอาณาจักรเมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อสนับสนุนการดำเนินการเพื่อบรรเทาทุกข์ทั่วโลกจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ มูลนิธิ UPS ได้ประกาศการจัดสรรเงินสนับสนุนครั้งใหม่ให้แก่หน่วยงานของสหประชาชาติ พันธมิตรด้านการบรรเทาทุกข์เพื่อมนุษยธรรม และองค์ระหว่างประเทศที่ไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล ในสหรัฐอเมริกา UPS ให้การสนับสนุน Federal Emergency Management Agency (FEMA) ในโครงการ "Project Airbridge" ซึ่งเป็นความร่วมมือกันเพื่อเร่งการจัดส่งอุปกรณ์เครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับโรงพยาบาลในสหรัฐอเมริกา
UPS Healthcare ให้บริการที่ครอบคลุมตั้งแต่พื้นที่กระจายสินค้าที่ได้รับอนุญาตด้านการดูแลสุขภาพ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน ไปจนถึงการบรรจุและการขนส่งแบบที่มีการควบคุมอุณหภูมิ การจัดเก็บและจัดการพร้อมจัดส่งอุปกรณ์การแพทย์ ตัวอย่างในห้องปฏิบัติการและการวิจัยทางคลินิก ด้วยศักยภาพในด้านคลังพัสดุและการขนส่งพัสดุภัณฑ์ที่จำเป็นตามข้อกำหนดของ GDP และ GMP โครงสร้างพื้นฐานระดับสากลของ UPS Healthcare ความสามารถในการตรวจควบคุมและตรวจติดตาม และการคุ้มครองข้อมูลส่วนตัว จึงมีความเหมาะสมอย่างยิ่งต่อการช่วยผู้ปฏิบัติงานด่านหน้าให้สามารถควบคุมผลกระทบของเชื้อไวรัสครั้งนี้
เกี่ยวกับ UPS
UPS (NYSE: UPS) หนึ่งในบริษัทผู้ให้บริการจัดส่งพัสดุที่ใหญ่ที่สุดของโลกที่มีรายได้มากถึง 7.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2019 ให้บริการโซลูชันโลจิสติกส์ครบวงจรที่ครอบคลุมความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายในกว่า 220 ประเทศและเขตพื้นที่ พนักงานกว่า 500,000 คนของบริษัทใช้กลยุทธ์ที่เป็นแถลงการณ์ที่เข้าใจง่าย แต่ทรงพลังในการนำไปปฏิบัติ: ลูกค้าต้องมาก่อน นำโดยบุคลากร ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม UPS มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้ปกป้องดูแลสิ่งแวดล้อมและสร้างคุณประโยชน์ให้แก่ชุมชนที่เราให้บริการในทั่วโลก นอกจากนี้ UPS ยังมีจุดยืนที่มั่นคงและแน่วแน่ต่อการสนับสนุนความหลากหลาย ความเท่าเทียมกัน และการยอมรับความแตกต่าง สามารถดูข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทบนอินเทอร์เน็ตได้ที่ www.ups.com และข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.pressroom.ups.com และ www.investors.ups.com