มูลนิธิ UPS สนับสนุนเครือข่ายพันธมิตรมนุษยธรรมทั่วโลกและองค์กรชุมชนท้องถิ่น เพื่อต่อสู่กับผลกระทบของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่เกิดขึ้นทั่วโลก

แอตแลนตา รัฐจอร์เจีย

• การสนับสนุนมียอดเกิน 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับเงินช่วยเหลือ บริการด้านโลจิสติกส์ และการขนส่ง และความร่วมมือกับหน่วยงานบรรเทาทุกข์กว่าสิบสองแห่งในการนำโครงการริเริ่มเกี่ยวกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ไปใช้
• การบรรเทาทุกข์ครอบคลุมการดำเนินการทั้งในระดับท้องถิ่น ประเทศ และสากล เพื่อนำเอาเครื่องใช้ทางการแพทย์ อาหารและที่พักอาศัย และความช่วยเหลือทางการเงินไปช่วยเหลือการดำเนินการเพื่อฟื้นฟู

มูลนิธิ UPS ซึ่งเป็นผู้นำโครงการพลเมืองโลกสำหรับ UPS (NYSE: UPS) ประกาศว่ามูลนิธิได้ขยายมาตรการรับมือกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งรวมถึงการจัดสรรเงินทุนใหม่จำนวนมากกว่า 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้แก่หน่วยงานของสหประชาชาติ พันธมิตรด้านการบรรเทาทุกข์เพื่อมนุษยธรรม และองค์กรไม่แสวงหากำไรระดับชุมชน และองค์กรพัฒนาระหว่างประเทศภาคเอกชน

การสนับสนุนเพื่อการบรรเทาทุกข์จะรวมถึง ความร่วมมือกับองค์กรกว่าสิบสองแห่งและการขนส่งสิ่งของ การเป็นที่ปรึกษาเกี่ยวกับห่วงโซ่อุปทาน และการบริจาคเงินสดเพื่อช่วยเร่งการกระจายอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และกิจกรรมการช่วยชีวิตอื่นๆ สำหรับบุคคลและชุมชนที่ได้รับผลกระทบ

“มูลนิธิ UPS และ UPS มีประสบการณ์มากมายในการช่วยเหลือชุมชนในการเตรียมพร้อม รับมือ และฟื้นฟูจากวิกฤตการณ์ที่ลุกลามอย่างกะทันหันและที่ยืดเยื้อ ความชำนาญดังกล่าวจะช่วยให้สามารถให้การสนับสนุนที่สำคัญแก่พันธมิตรของเราในระหว่างช่วงเวลาที่มีความจำเป็นอย่างไม่เคยมีมาก่อน" Eduardo Martinez ประธานมูลนิธิ UPS และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายความหลากหลายและการยอมรับความแตกต่างของ UPS กล่าว

เขายังกล่าวอีกว่า "ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนที่เราได้จัดทำขึ้นมาทั่วโลกจะคงอยู่ได้นานกลายปี และอาจจะหลายทศวรรษในบางกรณี เราสามารถทำงานร่วมกัน เสริมสร้างแรงบันดาลใจให้กันและกัน และสามารถนำการสนับสนุนและความชำนาญด้านโลจิสติกส์ของเราไปใช้ได้อย่างรวดเร็วกับการดำเนินการที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ เพื่อขับเคลื่อนผลลัพธ์ที่มีความยั่งยืนตลอดชีวิต"

การจัดสรรเงินช่วยเหลือรอบใหม่จะเป็นการมอบให้หน่วยงานดังต่อไปนี้:

• United Way Worldwide: ให้การสนับสนุนที่จำเป็นแก่ครอบครัว เด็ก และผู้สูงวัย รวมถึงความช่วยเหลือด้านอาหารและการเงินในการฟื้นฟูชุมชน
• American Red Cross: ตอนนี้ทางองค์กรกำลังประสบปัญหาการขาดแคลนเลือดขั้นรุนแรง โดยมีสาเหตุมาจากที่กิจกรรมการบริจาคเลือดจำนวนมากถูกยกเลิกโดยไม่คาดคิด การสนับสนุนเงินทุนจะช่วยให้มีคลังเลือดที่สำคัญเพียงพอกับความต้องการของระบบสาธารณสุขทั่วอเมริกา
• Salvation Army: การจัดหาที่พักอาศัยและอาหารให้แก่กลุ่มคนที่เปราะบางมากที่สุดในชุมชนของเรา
• Operation Hope: การสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการตอบสนองระดับประเทศ ซึ่งเป็นการดำเนินงานร่วมกับ FEMA และ American Red Cross สำหรับบุคคลและธุรกิจขนาดย่อมที่มีความจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือ ศูนย์ให้คำปรึกษาแห่งชาติจะให้คำปรึกษาเกี่ยวกับงบประมาณฉุกเฉินและแนวทางการจัดการเจ้าหน้าที่สำหรับแรงงานที่ตกอยู่ในความเสี่ยงจากผลของการแทรกแซงรายได้
• Center for Disaster Philanthropy (CDP): ให้คำปรึกษาด้านกลยุทธ์สำหรับการดำเนินการสร้างการมีส่วนร่วมกับภาคเอกชน รวมถึงการจัดส่งอาหารถึงบ้านและความช่วยเหลือทางการแพทย์ให้แก่ผู้สูงวัยและบุคคลกลุ่มเปราะบางอื่นๆ
• Good360: การจัดหาสิ่งของที่จำเป็นให้แก่ผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพ รวมถึงอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) และอุปกรณ์เครื่องใช้ทางการแพทย์อื่นๆ และชุดทำความสะอาด
• UNICEF: การให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศและภูมิที่ขาดแคลนโครงสร้างพื้นฐานด้านการดูแลสุขภาพและระบบสังคมสงเคราะห์ที่จำเป็น เพื่อรับมือกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
• World Food Programme (WFP): การกำกับควบคุมและการดำเนินการของห่วงโซ่อุปทาน และการส่งมอบของใช้ที่จำเป็นสำหรับหน่วยงานทุกแห่งของสหประชาชาติ และการบำรุงรักษาปฏิบัติการด้านการรักษาชีวิต รวมถึงการควบคุมสต็อกอาหาร คลังพัสดุเคลื่อนที่ และเต็นท์สำหรับการส่งมอบแบบฉับพลัน
• CARE: การสนับสนุนกลุ่มประชากรที่มีความเปราะบางในกว่า 19 ประเทศ โดยการจัดเตรียมอุปกรณ์ของใช้ฉุกเฉิน การจัดจ่ายน้ำและจุดล้างมือ และชุดรักษาความสะอาด และการจัดเตรียมชุดอุปกรณ์สำหรับการกักตนเองให้แก่ทีมตอบสนองต่อเหตุการณ์เร่งด่วน
• United Nations High Commission for Refugees (UNHCR): การจัดเตรียมผ้าใบกันน้ำพลาสติกและสิ่งของจำเป็นอื่นๆ และการมอบเงินทุนฉุกเฉินเพื่อสนับสนุนครอบครัวที่พลัดถิ่นและช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในกลุ่มครอบครัวที่พลัดถิ่น
• International Federation of Red Cross/Red Crescent (IFRC): การสนับสนุนกิจกรรมสุขภาพของชุมชน การเข้าถึงบริการพื้นฐาน และการจัดการข้อมูล ทั้งหมดนี้ล้วนมีความสำคัญต่อการควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส
• NVOAD: การสนับสนุนประชากรกลุ่มเปราะบางโดยการจัดหาอาหาร ที่อยู่อาศัย และการสนับสนุนทางสังคมอื่นๆ ให้

เงินช่วยเหลือครั้งใหม่นี้จะใช้เสริมการสนับสนุนที่ดำเนินการไปก่อนหน้า ซึ่งมูลนิธิ UPS และผู้บริจาคผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์และพันธมิตรด้านการบรรเทาทุกข์อย่าง MAP International, MedShare และ Good360 ได้มอบหน้ากากช่วยหายใจกว่า 4 ล้านชิ้น ชุดป้องกัน 11,000 ชุด และถุงมือยางไนไตรล์อีก 280,000 ชิ้น ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์

เมื่อเร็วๆ นี้ UPS ประกาศว่าได้เข้าร่วมใน White House Rapid-Response Taskforce for Coronavirus Testing Sites ซึ่งจะช่วยวางแผนและดำเนินการด้านโลจิสติกส์เพื่อสนับสนุนศูนย์ตรวจผู้ป่วยแบบไดรฟ์ทรูและจัดส่งชุดตรวจและตัวอย่างการตรวจ

มูลนิธิ UPS คือพันธมิตรที่ปรึกษารายสำคัญที่ทำงานร่วมกับรัฐบาลผสมจากทั่วโลกเพื่อจัดระเบียบการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน รวมถึงการประชุมโต๊ะกลมของภาคเอกชนสำหรับสาระด้านความมั่นคงทางสุขภาพของทั่วโลก (Private Sector Roundtable of the Global Health Security Agenda), เครือข่ายห่วงโซ่อุปทานในภาวะโรคระบาดของ World Economic Forum (World Economic Forum Pandemic Supply Chain Network) และแพลตฟอร์มการดำเนินการกับสถานการณ์โควิดของ World Economic Forum (World Economic Forum COVID Action Platform)

ในปี 2019 มูลนิธิ UPS ได้ตอบสนองต่อภัยพิบัติครั้งสำคัญของโลก 28 ครั้ง โดยมีการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่ไม่ใช่ตัวเงินและการบรรเทาทุกข์ใน 74 ประเทศ คิดเป็นมูลค่ากว่า 6.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับบริการที่ไม่ใช่ตัวเงิน ได้แก่ผู้เชี่ยวชาญที่ให้ยืมตัวมาและการจัดส่งสิ่งของเพื่อบรรเทาทุกข์โดยอาศัยเครือข่ายทั่วโลกทั้งที่ UPS เป็นเจ้าของเองและทำสัญญาว่าจ้าง ผ่านการขนส่งทางอากาศ ภาคพื้นดิน รถไฟ และทางทะเล ตลอดปี 2019 มูลนิธิ UPS ได้ลงทุนไปมากกว่า 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับการมอบเงินทุน การมอบสิ่งของและบริการ และการสนับสนุนด้านเทคนิคสำหรับโครงการริเริ่มด้านความปลอดภัยของชุมชน เพื่อยกระดับความพร้อม การรับมือและการฟื้นฟูหลังภัยพิบัติอย่างเร่งด่วน การเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ระบบสาธารณสุข และความปลอดภัยบนท้องถนน

วิธีที่ UPS รับมือกับไวรัสโคโรนา

เกี่ยวกับ UPS

UPS (NYSE: UPS) คือผู้นำทางด้านโลจิสติกส์ทั่วโลก พร้อมมอบโซลูชั่นในการบริการที่มากมายหลากหลายให้ ซึ่งประกอบไปด้วยการขนส่งพัสดุและสินค้า สนับสนุนการค้าระหว่างประเทศ และปรับใช้เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าเพื่อการบริหารจัดการโลกของธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น UPS มุ่งมั่นที่จะดำเนินงานอย่างยั่งยืนยิ่งขึ้น ดังที่เราคอยรับใช้สำหรับลูกค้า สิ่งแวดล้อม และชุมชนต่างๆ ทั่วโลก UPS มีสำนักงานใหญ่อยู่ในแอตแลนตา ให้บริการอยู่ในกว่า 220 ประเทศและเขตพื้นที่ทั่วโลก UPS ได้รับรางวัล “บริษัทที่ให้ บริการลูกค้าดีที่สุดของสหรัฐฯ ด้านบริการขนส่งทางเรือและขนส่งสินค้าจากนิตยสาร Newsweek, รางวัล “แบรนด์ที่มีมูลค่าสูงสุดด้านการขนส่ง” จากนิตยสาร Fortune และอันดับสูงสุดบนรายชื่อ JUST 100 ด้านความรับผิดชอบต่อสังคม, Dow Jones Sustainability World Index และ Harris Poll Reputation Quotient รวมถึงการจัดอันดับและรางวัลอันทรงเกียรติอื่นๆ สามารถดูข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทได้ที่เว็บไซต์ ups.com หรือ pressroom.ups.com และสามารถดูบล็อกของบริษัทได้ที่ ups.com/longitudes สสามารถดูจดหมายข่าวอิเล็กทรอนิกส์เกี่ยวกับความยั่งยืนของบริษัท UPS Horizons ได้ที่ ups.com/sustainabilitynewsletter  เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความพยายามเพื่อส่งเสริมความยั่งยืนของเราได้ที่ ups.com/sustainability  หากต้องการรับข่าวสารจาก UPS โดยตรง โปรดติตตาม @UPS_News บน Twitter หากต้องการจัดส่งด้วย UPS โปรดดูได้ที่ ups.com/ship

เกี่ยวกับมูลนิธิ UPS

นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 1907 UPS ได้สั่งสมชื่อเสียงในด้านการเป็นพลเมืองภาคธุรกิจที่ห่วงใยและรับผิดชอบต่อสังคม ด้วยโปรแกรมการสนับสนุนที่นำเสนอแนวทางเพื่อตอบสนองความต้องการของชุมชนในระยะยาว มูลนิธิ UPS ก่อตั้งขึ้นในปี 1951 และเป็นผู้นำในโปรแกรมพลเมืองโลกของบริษัทที่รับผิดชอบต่อการสนับสนุนการมีส่วนร่วมของชุมชนระดับท้องถิ่น ประเทศ และนานาชาติ ในปี 2019 UPS และพนักงานของบริษัท ทั้งที่กำลังทำงานในปัจจุบันและเกษียณอายุแล้ว ได้ลงทุนมากกว่า 123.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อให้ความช่วยเหลือในด้านการกุศลในทั่วโลก ดูข้อมูลของมูลนิธิ UPS ได้ที่เว็บไซต์ UPS.com/Foundation และติดตาม @UPS Foundation บน Twitter