“เวลาที่ดีที่สุดในการปลูกต้นไม้คือเมื่อ 20 ปีที่แล้ว เวลาที่ดีที่สุดอันดับสองคือตอนนี้”
– สุภาษิตจีน
จากการศึกษาพบว่า ผู้มีถิ่นพำนักในย่านที่มีรายได้น้อยในลุยวิลล์ เคนตักกี้ ซึ่งมีระดับของพื้นที่สีเขียวต่ำกว่า จะนำไปสู่การเจอกับความร้อนจัดและมีอายุขัยเฉลี่ยที่ลดลง (สูงสุดถึง 13 ปี) เมื่อเทียบกับย่านที่มีรายได้ปานกลางและสูง
ตัวเมืองจะมีมลพิษทางอากาศในระดับสูงสุดอย่างต่อเนื่องในสหรัฐอเมริกา และกำลังประสบกับวิกฤตพื้นที่สีเขียวในเมือง โดยสูญเสียต้นไม้ไป 54,000 ต้นต่อปี
ตามเป้าหมายในการปลูกต้นไม้ให้ได้ 50 ล้านต้นทั่วโลกภายในปี 2030 มูลนิธิ UPS กำลังให้การสนับสนุนโครงการ Green Heart ซึ่งเป็นโครงการศึกษาวิจัยร่วมกับ The Nature Conservancy ซึ่งได้แก่การปลูกต้นไม้ พืช และไม้พุ่มกว่า 8,000 รายการในลุยวิลล์
โครงการที่มีเป้าหมายชัดเจนนี้จะคอยสังเกตผลกระทบของการปลูกต้นไม้ในชุมชนที่ด้อยโอกาส เพื่อดูว่าร่มไม้ที่เพิ่มขึ้นมาช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศ ลดความเครียดทางจิตใจ และลดความเสี่ยงของโรคอ้วน โรคเบาหวาน และโรคหัวใจหรือไม่
นอกจากนี้ การศึกษาจะพิจารณาดูว่ามีกิจกรรมกลางแจ้งและจิตสำนึกร่วมชุมชนในย่านนั้นๆ เพิ่มขึ้นหรือไม่
Green Heart Louisville - การปลูกต้นไม้ตลอดเส้นทาง Watterson Expressway โดย The Nature Conservancy ใน Vimeo
ต้นไม้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากการปล่อยออกซิเจนแล้วออกมาแล้ว ต้นไม้ยังช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศด้วยการกรองฝุ่นและสารมลพิษที่เป็นอันตราย เช่น โอโซน คาร์บอนมอนอกไซด์ และซัลเฟอร์ไดออกไซด์จากอากาศ
การศึกษาและผลการวิจัย รวมทั้งจากวารสาร American Heart Association แสดงให้เห็นว่าการใช้ชีวิตในย่านที่เขียวขจีอาจทำให้ระดับของสารที่ทำให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดในสมองบางอย่างลดลง
ความร่วมมือกันเป็นระยะเวลาห้าปีนี้จะช่วยให้ผู้นำของลุยวิลล์ในการตัดสินใจเกี่ยวกับวิธีเชื่อมโยงธรรมชาติเข้ากับสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของพลเมือง
“มูลนิธิ UPS ภูมิใจที่ได้สนับสนุนการศึกษาวิจัยเชิงคาดการณ์ล่วงหน้าและตามหลักฐานของ The Nature Conservancy” Nikki Clifton ประธานฝ่ายผลกระทบทางสังคมและมูลนิธิ UPS กล่าว
แม้ว่า Green Heart เป็นโครงการริเริ่มที่พิเศษ แต่ก็เป็นเพียงหนึ่งในหลายโครงการปลูกต้นไม้ในชุมชนที่ด้อยโอกาสที่ UPS ให้การสนับสนุนอยู่ทั่วโลก
เดือนนี้ UPS มีส่วนร่วมในโครงการขนาดใหญ่ในยูกันดาเพื่อปลูกต้นไม้มากกว่า 400,000 ต้นเพื่อต่อสู้กับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและกำหนดกระบวนการที่ยั่งยืนซึ่งจะส่งช่วยผลกระทบระยะยาว เป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม เจ้าของฟาร์มในท้องถิ่น และชุมชนที่พวกเขากำลังดำเนินธุรกิจอยู่
เนื่องจากการเกิดโรคระบาดใหญ่ ส่งผลให้หลายโครงการในปี 2020 ล่าช้า ในปีนี้ UPS ได้สนับสนุนโครงการริเริ่มด้านสิ่งแวดล้อมมากกว่า 50 โครงการทั่วโลก และมากกว่า 25 โครงการในพื้นที่เขตเมือง พันธมิตรสำหรับโครงการเหล่านี้ ได้แก่ Arbor Day Foundation, Earth Day Network, Keep America Beautiful, The Nature Conservancy, National Park Foundation, Student Conservation Association และ World Wildlife Fund
“UPS ตระหนักดีว่าเดือน Earth Month จะมีความสนใจหลักอยู่ในเดือนเมษายน แต่เราเชื่อว่าโครงการริเริ่มด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ส่งผลกระทบต่อชุมชนที่ด้อยโอกาส ควรได้รับความสนใจตลอดทั้งปีเพื่อช่วยสร้างชุมชนที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น เป็นกลุ่มเป็นก้อนกันมากขึ้น และปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงได้มากขึ้น” Nikki กล่าว
ในอีก 40 ปีข้างหน้า ต้นไม้ 50 ล้านต้นจะมีประโยชน์อย่างไรบ้าง |
|
มูลนิธิ UPS ได้มอบสิ่งที่สำคัญในฐานะองค์กรที่ขับเคลื่อนโดยผู้คนซึ่งชี้นำโดยวัตถุประสงค์ที่เข้มแข็ง ดูเรื่องราวผลกระทบทางสังคมอื่นๆ ด้านล่าง