ด้วยการใช้ Rolling Lab รุ่นทดลอง UPS ได้ปรับใช้ยานพาหนะที่ปล่อยมลพิษต่ำมากกว่า 12,000 คันทั่วโลก และคนขับรถของ UPS ยังได้บันทึกข้อมูลไว้ว่ามีการใช้ยานพาหนะเชื้อเพลิงทางเลือกและมีเทคโนโลยีขั้นสูงมากกว่าหนึ่งล้านไมล์ในทุกวันทำการด้วย

ตั้งแต่จักรยานแบบใช้เท้าเหยียบและแบบใช้ไฟฟ้าในเขตเมืองที่มีความหนาแน่นสูง เช่น ฮัมบูร์ก เยอรมนี ไปจนถึงรถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริดในเมืองต่างๆ ทั่วสหรัฐอเมริกา เทคโนโลยีของ UPS จะขึ้นอยู่กับความจำเป็นของเส้นทางการจัดส่งแต่ละเส้นทาง

ในฐานะบริษัทที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและมีวัตถุประสงค์เป็นเครื่องชี้นำ ไม่นานมานี้ UPS ได้ให้คำมั่นที่จะซื้อเชื้อเพลิงชีวภาพทดแทนหรือ (RNG) ในปริมาณเทียบเท่ากว่า 250 ล้านแกลลอน ทำให้บริษัทกลายเป็นผู้บริโภคก๊าซ RNG รายใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมการขนส่ง

“การใช้ RNG เป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์ของ UPS ในการเพิ่มเชื้อเพลิงทางเลือก” Mike Whitlatch รองประธานฝ่ายพลังงานและการจัดซื้อระดับโลกกล่าว “เราใช้ทั้งก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) และก๊าซธรรมชาติอัด (CNG) เป็นเชื้อเพลิงเชื่อมเพื่อเพิ่มการใช้ RNG การทำเช่นนี้จะมีผลกระทบที่วัดได้ … RNG ส่งผลให้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในวงจรชีวิตได้ถึง 90% เมื่อเทียบกับดีเซลทั่วไป”

เมื่อไม่นานมานี้ UPS ยังประกาศแผนการซื้อรถบรรทุกที่ใช้ CNG มากกว่า 6,000 คัน ความมุ่งมั่นนี้แสดงถึงการลงทุน 450 ล้านดอลลาร์ในการขยายกลุ่มยานพาหนะเชื้อเพลิงทางเลือกและเทคโนโลยีขั้นสูงของบริษัท

“โลกมีปัญหาเรื่องขยะ และโลกก็มีปัญหาการปล่อยมลพิษ ก๊าซธรรมชาติหมุนเวียนที่ผลิตตามธรรมชาติจากแหล่งเชื้อเพลิงชีวภาพ เช่น หลุมฝังกลบและฟาร์มโคนม จะเปลี่ยนขยะให้เป็นเชื้อเพลิง” Mike กล่าว “เป็นโซลูชันที่ชนะการแข่งขันที่จะช่วยให้ UPS บรรลุเป้าหมายที่ชัดเจนด้านความยั่งยืนของเรา”

กว่าสิบปีที่ผ่านมา UPS ได้ลงทุนมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ในยานพาหนะที่ใช้เชื้อเพลิงทางเลือก รวมถึงยานพาหนะที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและสถานีเติมเชื้อเพลิง แผนในอนาคตรวมถึงการติดตั้งยานพาหนะขนส่งขาเข้าแบบไฟฟ้าทั้งหมด 10,000 คันในอเมริกาเหนือและยุโรป 

ในฐานะบริษัทขนส่งระดับโลก UPS จึงมีหน้าที่รับผิดชอบในการนำประสิทธิภาพและความยั่งยืนมาเป็นแกนหลักของการดำเนินธุรกิจ